ลักษณะคุณสมบัติและการดำเนินการของหน่วยงานหรือองค์กรที่สามารถขอขึ้นทะเบียนได้
๑.
หน่วยงานหรือองค์กรที่ขอขึ้นทะเบียน
ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีลักษณะตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๐
(๑) สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์
หรือสมาคมทางด้านการศึกษา
หมายความถึง สมาคมหรือชมรมซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มครู
ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาอื่น ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน
การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษา
(๒) สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย
หมายความถึง สภาทนายความหรือสภาทนายความจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยทนายความหรือองค์กรผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายอื่น
(๓) สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ
หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน
หมายความถึง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
หรือสภาแรงงานหรือสหภาพแรงงงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
หรือสมาคมหรือกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นตัวแทนชองพนักงานหรือลูกจ้างที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างและระหว่างลูกจ้างด้วยกัน
หรือพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกในการคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้างของลูกจ้าง
(๔) สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด
หมายความถึง หอการค้าจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยหอการค้าหรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือสำนักงานสาขาในจังหวัดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือกลุ่มธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์และสาขาของธนาคารต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
(๕) กลุ่มอาสาสมัคร
หมายความถึง
กลุ่มบุคคลหรือมูลนิธิที่สมัครใจอาสาเข้ามาทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมหรือผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือสิ่งอื่นใด
(๖) องค์กรเอกชน
หมายความถึง องค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินงานพัฒนาสังคมโดยเน้นการพัฒนาคนและการมีส่วนร่วมของประชาชน
จะเป็นองค์กรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่จดทะเบียนก็ได้
และในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
จะต้องมีการจัดองค์กรเป็นคณะบุคคลขึ้นมาดูแลรับผิดชอบการดำเนินกิจการอย่างมีระเบียบแบบแผนตามสมควร
ซึ่งดำเนินงานโดยอิสระ มีกิจกรรมต่อเนื่องและไม่แสวงหาผลประโยชน์
(๗) องค์กรเกษตรกร หมายความถึง องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร เช่น การเสนอนโยบายและแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกร รวมทั้งราคาผลผลิตทางเกษตรกรรมที่ไม่เป็นธรรมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่เกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกร
(๘) สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน
หมายความถึง
องค์กรหรือกลุ่มบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อทำหน้าที่ปกป้องสิทธิ เสรีภาพ
และความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน หรือทำน้าที่ในการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
โดยมีการดำเนินการในลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน
(๙) หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด
หมายความถึง
หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
๒.
หน่วยงานหรือองค์กรที่ขอขึ้นทะเบียน
ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีคุณสมบัติและการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๒
(๑) การรวมตัวกันของสมาชิกของหน่วยงานหรือองค์
ต้องเป็นไปเพื่อดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในจังหวัด
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวข้องกับข้อ ๑ (๑)
(๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) หรือเป็นส่วนราชการประจำจังหวัดตาม (๙)
(๒) ได้รับการรับรองจากทางราชการ
หรือมีหลักฐานแสดงสถานภาพของหน่วยงานหรือองค์กร
(๓) หน่วยงานหรือองค์กรตามข้อ ๑ (๑) (๒)
(๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) ต้องจัดตั้งหรือดำเนินกิจกรรมมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒
ปีนับถึงวันแจ้งความประสงค์ โดยสามารถนำผลงานหรือรายงานการดำเนินกิจกรรมมาแสดงได้
(๔) หน่วยงานหรือองค์กรตามข้อ ๑ (๑) (๒)
(๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) ที่มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคลต้องมีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดตามจำนวนที่กำหนด
ดังต่อไปนี้
(ก) หน่วยงานหรือองค์กรตามข้อ ๑ (๑) (๒)
(๓) (๔) และ (๘) ต้องมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐ คน
(ข)
หน่วยงานหรือองค์กรตามข้อ ๑ (๕) (๖) และ (๗)
ต้องมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐ คน
(๒)ในกรณีที่หน่วยงานหรือองค์กรใดเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีคุณสมบัติตามระเบียบข้อ
๒๐ ได้มากกว่าหนึ่งประเภท
ให้หน่วยงานหรือองค์กรนั้นแจ้งความประสงค์การขอขึ้นทะเบียนได้เพียงประเภทเดียว
หลักฐานที่ใช้ในการขอขึ้นทะเบียน
๑. แบบแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนและส่งรายชื่อผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร
เพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
(ป.ป.จ. ๓)
๒.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของหัวหน้าหน่วยงานหรือองค์กร และกรณีหัวหน้าหน่วยงานหรือองค์กรมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นแบบแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ตามแบบ ป.ป.จ. ๔
รวมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
๓. หลักฐานที่แสดงถึงวัตถุประสงค์หลักของหน่วยงานหรือองค์กร
เช่น หนังสือหรือเอกสารชี้แจงวัตถุประสงค์การดำเนินงาน
หรือหนังสือการก่อตั้งหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งระบุวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งฯ
เป็นต้น
๔. หลักฐานที่แสดงถึงการได้รับการรับรองจากทางราชการหรือหลักฐานแสดงสถานภาพของหน่วยงานหรือองค์กร
๕. หลักฐานแสดงถึงการจัดตั้งหรือดำเนินกิจกรรมมาแล้วไม่น้อยกว่า
๒ ปีนับถึงวันแจ้งความประสงค์
โดยนำผลงานหรือรายงานการดำเนินกิจกรรมมาแสดง เช่น หนังสือแสดงการจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กร
หรือเอกสารแสดงผลงานหรือรายงานประจำปี
๖. กรณีหน่วยงานหรือองค์กรที่มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ให้แนบหลักฐานเพื่อแสดงว่ามีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดตามจำนวนที่ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๒ กำหนด
๗.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนเพื่อคัดเลือกกันเองเป็นกรรมการสรรหา
๒. หน่วยงานหรือองค์กรตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๐ (๙) ใช้หลักฐาน ดังนี้
๑. แบบแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนและส่งรายชื่อผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร
เพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด
(ป.ป.จ. ๓)
๒. สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐของหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด
๓. หลักฐานที่แสดงถึงหลักฐานแสดงสถานภาพของหน่วยงานหรือองค์กร
เช่น สำเนาคำสั่งแต่งตั้ง เป็นต้น
๔. กรณีหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นแบบแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนแทน
จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ตามแบบ ป.ป.จ. ๔
รวมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
๕. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนเพื่อคัดเลือกกันเองเป็นกรรมการสรรหา
สอบถามและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี หลังที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ถนนพระพันวษา ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ๗๒๐๐๐ โทร.๐๓๕-๕๑๑๑๗๘ / facebook : ป.ป.ช. สุพรรณบุรี